ประวัติ ของ สุรางค์ ดุริยพันธุ์

ชาติกำเนิด

สุรางค์ ดุริยพันธุ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2480 ในครอบครัวบ้านดนตรี "ดุริยประณีต" วงดนตรีปี่พาทย์ในย่านบางลำพู กรุงเทพมหานคร ในความควบคุมของศุข ดุริยประณีต ผู้มีศักดิ์เป็นตา[2][3] บิดาชื่อ เหนี่ยว ดุริยพันธุ์ มารดาชื่อ แช่มช้อย ดุริยพันธุ์ (ดุริยประณีต) ทั้งสองรับราชการเป็นคีตศิลปินประจำกองการสังคีต กรมศิลปากร นอกจากนี้ยังเป็นครูสอนขับร้องโรงเรียนนาฏศิลป[4][5] มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 6 คน เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงจำนวน 2 คน คือ ดวงเนตร ดุริยพันธุ์ และนฤพนธ์ ดุริยพันธุ์[3] ในวัยเด็กมักจะได้ติดตามบิดามารดาไปในงานแสดงดนตรีด้วยเสมอ ทำให้ได้ซึมซับเอาเรื่องของศิลปะการแสดงของไทยมาตั้งแต่นั้น นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เรื่องของศิลปะการแสดงจากสมาชิกในครอบครัวและครูดนตรีท่านอื่น ๆ อีกด้วย[4]

การศึกษา

เริ่มเข้าศึกษาครั้งแรกที่โรงเรียนวรวุฒิวิทยาลัยในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 ต่อมาย้ายมาศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ และภายหลังได้ย้ายมาศึกษาต่อที่โรงเรียนเบญจมราชาลัยจนสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7[1][4]

เริ่มเรียนขับร้องเพลงไทยกับครูชม รุ่งเรือง (ดุริยประณีต) ผู้เป็นน้าสาว ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์ ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตามคำแนะนำของคุณย่าแถม ดุริยประณีต[2] โดยเรียนเพลงมอญ เพลงเถา เพลงสามชั้น จนสามารถออกงานในวงดนตรีของคณะดุริยประณีตได้ และได้เรียนร้องเพลงกับครูชมจนถึงเมื่ออายุ 13 ปี[6] ซึ่งในระหว่างนั้นเคยเข้าร่วมการประกวดขับร้องเพลงไทยได้รับรางวัลชนะเลิศมาโดยตลอด โดยเฉพาะรางวัลชนะเลิศการประกวดขับร้องเพลงไทยระดับมัธยมศึกษาในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ขณะกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์ ได้รับความกรุณาจากหม่อมเจ้าพูนศรีเกษม เกษมศรี ซึ่งโปรดน้ำเสียงและการขับร้องเป็นอย่างมาก[1] ต่อมาจึงได้เรียนกลวิธีการขับร้องเพลงไทยและต่อเพลงกับมารดาจนมีความสามารถในการขับร้องเพลงได้หลายประเภท ทั้งการขับเสภา การขับร้องหุ่นกระบอก และเพลงพื้นเมือง[7] นอกจากนี้ยังได้รับคำแนะนำในด้านการขับร้อง และเรียนรู้การเล่นเครื่องดนตรีไทยจากครูอีกหลายท่าน เช่น สุดา เขียววิจิตร สุดจิตต์ ดุริยประณีต สืบสุด ดุริยประณีต เบ็ญจรงค์ ธนโกเศศ ศรีนาฏ เสริมสิริ จิรัส อาจณรงค์ มนตรี ตราโมท ชิต แฉ่งฉวี สุเอ็ด คชเสนี[6] สำเนียง ฟักภู่ ฉวีวรรณ เปลี่ยนทันผล[5] เป็นต้น

การทำงาน

หลังจากสำเร็จการศึกษาได้รับบรรจุเป็นข้าราชการครูสอนขับร้องเพลงไทยที่โรงเรียนราชินีในปี พ.ศ. 2502 ทำงานอยู่ได้ราว 3 ปี จึงได้รับการชักชวนจากจำนง รังสิกุล ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม ให้มาทำงานในตำแหน่งครูสอนขับร้อง แผนกนาฏดุริยางค์ ฝ่ายจัดรายการโทรทัศน์ บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด[1][2][4] ภายหลังได้ย้ายมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่นักจัดรายการ ส่วนรายการฝ่ายผลิตรายการโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 9 องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.)[2]

ภายหลังเกษียณอายุการทำงาน ได้รับเชิญเป็นอาจารย์พิเศษสอนขับร้องเพลงไทย ให้กับสถาบันการศึกษาและชุมนุมดนตรีไทย เช่น มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โรงเรียนวัดปทุมวนาราม โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนบุญวัฒนา เป็นต้น[7]

ผลงานทางวิชาชีพ

สุรางค์ ดุริยพันธุ์ มีผลงานการขับร้องเพลงละคร เพลงเกร็ด บันทึกเสียงกับห้างแผ่นเสียงต่าง ๆ อาทิ ห้างแผ่นเสียงนารายณ์เหยียบกอบัว ห้างแผ่นเสียงโคลัมเบีย ห้างแผ่นเสียงคาเธ่ย์ เป็นต้น[1] มีผลงานแถบบันทึกเสียงกับห้องบันทึกเสียง "เสริมมิตร" ในความควบคุมของ เสริม ศาลิคุปต[5] บรรเลงเผยแพร่ออกอากาศทางสถานีวิทยุมากกว่า 100 เพลง และมีงานบันทึกแผ่นซีดีอีกจำนวนมากในตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี[7]

งานแรกที่ได้ทำเมื่อเข้าทำงานที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม คือการสอนขับร้องเพลงไทยให้กับนักแสดงที่อยู่ในสังกัดคณะละคร อาทิ "นาฏศิลป์สัมพันธ์" ตัวอย่างนักแสดงที่มีชื่อเสียง เช่น นงลักษณ์ โรจนพรรณ ศิริพร วงศ์สวัสดิ์ ฉลอง สิมะเสถียร นันทวัน เมฆใหญ่ รอง เค้ามูลคดี[5] อีกทั้งได้เป็นนักร้องขับร้องเพลงไทยและขับเสภาประกอบประกอบการแสดงละครวิทยุโทรทัศน์ ในระหว่างนี้ยังได้ร่วมขับร้องเพลงไทยร่วมกับวงดนตรีไทย "ดุริยประณีต" และเคยได้รับเชิญให้ขับร้องเพลงไทยถวายหน้าพระพักตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ในโอกาสต่าง ๆ[6] อีกทั้งได้รับเชิญให้ขับร้องเพลงไทยร่วมกับวงดนตรีไทยอื่น ๆ เช่น "เสริมมิตรบรรเลง" เป็นต้น

ในด้านสื่อสารมวลชน ได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดทำบทและดำเนินรายการวิทยุโทรทัศน์ เช่น "ไทยเพชรล้ำค่า" "คันธรรพศาลา" "เพลินเพลงกับนฤพนธ์" "รัตนสังคีต" "วรรณกรรมสังคีต" "อยู่อย่างไทย"[1] เป็นต้น และเป็นผู้จัดรายการลิเกโทรทัศน์ในชื่อคณะ "สุรางครัตน์"[2]

ผลงานทางวิชาการ

สุรางค์ ดุริยพันธุ์ ได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์พิเศษสอนรายวิชาคีตศิลป์ไทยให้สถาบันการศึกษาหลายแห่ง ผลิตสื่อการเรียนที่เป็นทั้งเอกสารและสื่อโสตประกอบวิชาขับร้องเพลงไทยเอาไว้เป็นจำนวนมาก[7] เป็นวิทยากรให้ความรู้และกรรมการตัดสินการขับร้องเพลงไทยให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมศิลปากร กรมประชาสัมพันธ์ ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ อีกทั้งได้รับเชิญเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่ปรึกษาในการทำวิทยานิพนธ์ ศิลปนิพนธ์ ให้แก่นิสิตนักศึกษา เช่น คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์[6] โดยมีผลงานเขียนทางวิชาการดนตรีศึกษาด้านกลวิธีการสอนขับร้องเพลงไทยเผยแพร่สู่สาธารณชน[2]

การสร้างสรรค์และเผยแพร่ผลงานต่อสาธารณชน

สุรางค์ ดุริยพันธุ์ มีผลงานการประพันธ์ทางขับร้องเพลงไทย จำนวน 3 เพลง ได้แก่ "เทพรัญจวน เถา" "สุรินทราหู เถา"[6] "เทพนฤมิต เถา" และมีความคิดริเริ่มในการสร้างนวัตกรรมการสอนขับร้อง โดยได้ประพันธ์เพลงและทางขับร้องเพลงเพื่อใช้เป็นสื่อการสอนวิชาขับร้องเพลงไทยให้แก่นิสิตนักศึกษา[2] ได้แก่ "สามเสียงไพเราะ" "หัวใจเสียงเอื้อน" "กลวิธีการขับร้องเพลงไทย" และ "เสียงเอื้อนลูกกระทบ"[8]

มรณกรรม

สุรางค์ ดุริยพันธุ์ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร[9] ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดติดเชื้อ ไตวาย สิริรวมอายุ 82 ปี ได้มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาส และเก็บศพเพื่อบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 100 วัน[10] และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุด้านใต้ วัดเทพศิรินทราวาส ในวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563

แหล่งที่มา

WikiPedia: สุรางค์ ดุริยพันธุ์ http://art.culture.go.th/art01.php?nid=307 https://anyflip.com/bookcase/tgxt https://anyflip.com/bookcase/tgxt?fbclid=IwAR0PgM5... https://web.facebook.com/gitanusara.surangduriyapa... https://www.youtube.com/playlist?list=PLPgKbwpl2bk... https://sirindhornmusiclibrary.li.mahidol.ac.th/mu... https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_357... https://www.mixmagazine.in.th/view.php?ref=0000355... https://news.thaipbs.or.th/content/288966